โรงเรียนบ้านบางครั่ง


หมู่ที่  3  บ้านวังยายมาก ตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย
จังหวัดสุโขทัย 64190
โทร. 086-9578241

สารอาหาร การศึกษาและอธิบายว่าโพรไบโอติกมีประโยชน์อย่างไร

สารอาหาร

สารอาหาร โปรไบโอติกเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์นมหมักและโยเกิร์ตที่มีจำหน่ายทั่วไป แต่คุณรู้หรือไม่ว่าโปรไบโอติกคืออะไร มีความสำคัญต่อสุขภาพอย่างไร เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ จะทำอย่างไรถ้าโปรไบโอติกของคุณไม่สมดุล บทความนี้จะแนะนำให้คุณรู้จักจุลินทรีย์ตัวจิ๋วและเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน หลายท่านคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าสุขภาพดีต้องมาจากภายในสู่ภายนอก

จากที่กล่าวมา การบริโภคโปรไบโอติกเป็นวิธีหนึ่งในการเสริมสร้างสุขภาพของคุณ โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหารและภูมิคุ้มกัน เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจุลินทรีย์เหล่านี้ช่วยควบคุมสมดุลในลำไส้ จึงช่วยลดปัญหาท้องผูก ท้องเสีย อาหารไม่ย่อยและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และลดความรุนแรงของโรคเรื้อรังบางชนิด นอกจากนี้ วิถีชีวิตปัจจุบันยังนำไปสู่ความไม่สมดุลของไมโครไบโอมในร่างกาย

ทั้งการออกกำลังกายหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ในเรื่องของอาหารอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับลำไส้และระบบภูมิคุ้มกันได้ นอกจากนี้ มลพิษและปัญหาสุขภาพยังส่งผลต่อสภาวะสมดุล ดังนั้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่จึงเจ็บป่วยได้ง่ายหากสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ คุณอาจนึกถึงแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณ แต่แท้จริงแล้วจุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมทุกประเภท

ไม่ว่าจะเป็น บนบก ในน้ำ พืช สัตว์หรือแม้กระทั่งร่างกายของมนุษย์ มีทั้งจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และโทษ โปรไบโอติกส์จัดเป็นจุลินทรีย์และยีสต์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่ออยู่ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหารและระบบภูมิคุ้มกันที่ช่วยป้องกันหรือรักษาโรคบางชนิด ปัจจุบัน โปรไบโอติกมีหลายรูปแบบตั้งแต่อาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

แต่บางสายพันธุ์ในบางกลุ่มเท่านั้นที่เป็นโปรไบโอติก ตัวอย่างโปรไบโอติกที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และค่อนข้างปลอดภัยในการบริโภค ได้แก่ แบคทีเรียกรดแลคติกเป็นจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารมีมากกว่า 40 สายพันธุ์ในระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะเพศ จากการศึกษาทางด้าน สารอาหาร พบว่าแลคโตบาซิลลัสบางสายพันธุ์อาจบรรเทาหรือป้องกันปัญหาสุขภาพทางเดินอาหาร

ตัวอย่างเช่น โรคลำไส้แปรปรวน IBS อาการท้องร่วงและท้องเสียที่เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ท้องเสียจากเชื้อ Clostridium difficile ท้องเสียจากนักเดินทางที่แพ้แลคโตส นอกจากนี้ แบคทีเรียกรดแลคติกยังมีประโยชน์ต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น การติดเชื้อรา ภาวะแบคทีเรียในช่องคลอด การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อทางเดินหายใจหรืออาการทางผิวหนังอื่นๆ เช่น เริม ผื่นคันและแผลในปาก

ซึ่งบิฟิโดแบคทีเรียเป็นจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่และพบในระบบทางเดินอาหารของทารก โดยเฉพาะสำหรับทารกที่กินนมแม่ บิฟิโดแบคทีเรียถือว่ามีประโยชน์ต่อทารกมาก การวิจัยแสดงให้เห็นว่า bifidobacteria บางสายพันธุ์ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือด บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวนและอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องอืดและระบบย่อยอาหารผิดปกติมีอาหารหลายประเภทที่มีโปรไบโอติก

สารอาหาร

แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือผลิตภัณฑ์จากโยเกิร์ตหรืออาหารหมักดองบางชนิด เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ตและกะหล่ำปลีดอง แต่ก็รวมถึงอาหารหมักดองอื่นๆ ด้วย อุดมไปด้วยโปรไบโอติกแต่ไม่ค่อยมีการวิจัยเกี่ยวกับพวกมัน เช่น มิโซะ เทมเป้ กะหล่ำปลีดอง ขนมปังซาวร์โดและผักดอง นอกจากการรับประทานโพรไบโอติกส์แล้ว เราควรกินพรีไบโอติกส์กัน พรีไบโอติก คือ อาหารของโปรไบโอติก พรีไบโอติกส์จัดอยู่ในกลุ่มใยอาหารไฟเบอร์ชนิดหนึ่งพบมากในผักและผลไม้

อาหารที่มีทั้งโปรไบโอติกและพรีไบโอติกอาจช่วยปรับสมดุลของลำไส้ได้หากเรารับประทานเป็นประจำ ทำงานได้ดีขึ้นและลดปัญหาทางเดินอาหารได้มากขึ้น ทุกวันนี้ซินไบโอติกหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีโปรไบโอติกและพรีไบโอติก ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการรับประทานทั้งสองอย่างแต่อาจไม่มีเวลารับประทานโดยใช้ผลิตภัณฑ์ซินไบโอติกอาจช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ อีกทั้งยังสะดวกและประหยัดเวลาอีกด้วย

แต่ผู้ซื้อควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ และประโยชน์ต่อสุขภาพในการบริโภคผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก การใช้ยาบางชนิดและสถานการณ์อื่นๆ โดยแทนที่จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่ร่างกายสูญเสียไปจากการย่อยอาหารและสาเหตุอื่นๆ เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดี ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปตามเนื้อผ้า ระบบย่อยอาหารปกติสามารถกำจัดแบคทีเรีย สารพิษ สารเคมีและของเสียอื่นๆ ออกจากร่างกายได้เอง

แต่เมื่อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ลดลง ผลกระทบของจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายก็มีมากขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหารลดลงและไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ดังนั้น อาจมีอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูกและท้องเสียได้ โปรไบโอติกยังมีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน นี่เป็นด่านแรกของการป้องกันสิ่งแปลกปลอมเมื่อร่างกายสูญเสียสมดุลระหว่างจุลินทรีย์ที่ดีและไม่ดี

การติดเชื้อที่ไม่ดีและวัตถุแปลกปลอมมักสร้างสารพิษในร่างกายที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการแพ้ เช่น ท้องเสียและการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือช่องคลอด ดังนั้น การบริโภคโปรไบโอติกอาจช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคหรืออาการต่างๆ เช่น ความผิดปกติของการย่อยอาหาร เช่น ท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อหรือการใช้ยาปฏิชีวนะ กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวนและโรคอักเสบเรื้อรังของระบบทางเดินอาหาร โรคลำไส้อักเสบและกลุ่มอาการภูมิแพ้

ตัวอย่างเช่น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ฟันผุ โรคปริทันต์ หรือปัญหาอื่นๆ ในช่องปาก อาการจุกเสียดของเด็กวัยหัดเดิน โรคตับ ไข้หวัดใหญ่ และลำไส้เน่าในทารกเกิดก่อนกำหนด ด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพเหล่านี้ เราควรรับประทานโปรไบโอติกส์และอาหารเพื่อสุขภาพในปริมาณที่มากขึ้น จำพวกผักและผลไม้ เพิ่มใยอาหารเพื่อเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารเป็นประจำช่วยให้ร่างกายแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก

เมื่อลำไส้อยู่ในภาวะสมดุลอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ได้ และเพิ่มภูมิคุ้มกันเพื่อลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคบางชนิด เพราะที่ผ่านมามีการศึกษาโปรไบโอติกเพียงบางกลุ่มและสายพันธุ์เท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ในกลุ่ม แบคทีเรียกรดแลคติกและบิฟิโดแบคทีเรีย ข้อมูลนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายและยังขาดข้อมูลการติดตามระยะยาว โพรไบโอติกส์บางกลุ่มอาจมีผลแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และแต่ละบุคคล

จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของโปรไบโอติก ดังนั้นผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกใดๆ ที่ไม่ได้รับการอนุมัติทางการแพทย์จึงไม่ควรนำมารับประทาน อาหารเสริมเหล่านี้ไม่ควรใช้แทนการรักษาหากมีอาการป่วย เนื่องจากผลิตภัณฑ์หรืออาหารที่มีโปรไบโอติกไม่ใช่ยา ดังนั้นควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะสุขภาพ เช่น ผู้ที่เพิ่งได้รับการผ่าตัด ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอด้วยเหตุผลบางประการ

ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ เด็กเล็กและสตรีมีครรภ์ ปรึกษาหรือขอคำแนะนำทางการแพทย์ก่อนใช้หรือรับผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก ประการสุดท้ายนอกจากการรับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกและพรีไบโอติกส์เพื่อรักษาสมดุลของลำไส้ ระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การพักผ่อนให้เพียงพอและทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียดสามารถช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียที่ดีในร่างกายได้อีกทางหนึ่ง สุขภาพแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง

บทความที่น่าสนใจ วิทยาศาสตร์ มุมมองทางวิทยาศาสตร์มีวิญญาณอยู่หลังความตายหรือไม่

บทความล่าสุด